Rhinoplasty

สารบัญ ชื่อหัวข้อ
-
Closed Technique (เทคนิคปิด)
-
Semi-Open Technique (เทคนิคเซมิโอเพ่น)
-
Open Technique (เทคนิคโอเพ่น)
-
การรองปลายด้วย วัสดุต่างๆ หู เนื้อเยื่อเทียม
ติ่งในรูจมูก
การตัดปีกจมูก
คำถามยอดฮิตการเสริมจมูก
Closed Technique (เทคนิคปิด)
วิธีการ: เปิดแผลเพียงข้างเดียวที่รูจมูก
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ไม่มีปัญหากับโครงสร้างจมูก หรือผู้ที่ต้องการทรงจมูกที่ไม่โด่งเกินไป
ข้อดี
-
- ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน
- บวมช้ำน้อย
- ดูแลรักษาง่าย
- ราคาถูกกว่า

Semi-Open Technique (เทคนิคเซมิโอเพ่น)
วิธีการ: เปิดแผลที่รูจมูกทั้งสองข้าง
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาฐานจมูกกว้าง, ฮัมพ์เล็กน้อย, ปีกจมูกใหญ่ หรือมีปัญหาโครงสร้างจมูกไม่มาก
ข้อดี
-
- ปรับโครงสร้างจมูกได้เล็กน้อยถึงปานกลาง
- สามารถเย็บอินเตอร์โดมทำให้จมูกเรียวเล็กขึ้น
- ตะไบฮัมพ์ช่วยลดโอกาสจมูกเบี้ยวเอียง
- ใช้เวลาในการผ่าตัดและพักฟื้นไม่นาน

Open Technique (เทคนิคโอเพ่น)
วิธีการ: เปิดแผลตรงกลางจมูกทั้งหมด
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาปลายจมูกใหญ่, เนื้อจมูกน้อย, จมูกสั้น, ฮัมพ์สูง, จมูกคด, หรือเคยแก้จมูกหลายครั้ง
ข้อดี
-
- แก้ไขปัญหาตั้งแต่โครงสร้างจมูกได้อย่างละเอียด
- ยืดผนังกั้นจมูกและปรับฐานได้
- ช่วยให้ปลายจมูกสวยขึ้น
- ลดโอกาสจมูกทะลุ
- ผลลัพธ์ที่แม่นยำตามที่ต้องการ

การรองปลายด้วย วัสดุต่างๆ หู เนื้อเยื่อเทียม
การรองปลายจมูกเป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับปลายจมูก เช่น ปลายจมูกสั้น, ปลายจมูกตก, หรือปลายจมูกงุ้ม โดยวัสดุที่ใช้ในการรองปลายจมูกมีหลายประเภท ได้แก่ ซิลิโคน ก้นกบ เนื้อเยื่อเทียม กระดูกอ่อนหลังหู
ติ่งในรูจมูก
ติ่งในรูจมูกนี้อาจเกิดจากกระดูกปีกนกในจมูกของเราเองที่ถูกซิลิโคนกดทับ จนกระดูกพับเข้าหากันและยื่นออกมาให้เห็น หรืออาจเป็นคีลอย (แผลเป็นนูน) ที่เกิดจากการทำศัลยกรรมก็ได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากกระดูกอ่อนหลังหู หรือแม้กระทั่งซิลิโคนที่โผล่ออกมาบางส่วนก็เป็นไปได้เช่นกัน
ติ่งในรูจมูกอันตรายไหม?
ต้องตรวจสอบสาเหตุให้ชัดเจนก่อน ถ้าคือกระดูกปีกนกของเรา หรือกระดูกอ่อนหลังหู หรือแม้กระทั่งคีลอย ก็ไม่มีอันตรายที่จะทะลุหรือติดเชื้อ สามารถหมดกังวลได้เลยค่ะ ยกเว้นในกรณีที่ปูดออกมามาก อาจทำให้เห็นได้ชัดโดยที่ไม่ต้องเงยหน้า แต่ถ้าเป็นซิลิโคนที่โผล่ออกมานั้น ค่อนข้างน่ากังวล ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ติ่งในรูจมูกแก้ไขได้ไหม?
ข่าวดีคือสามารถแก้ไขได้ทุกปัญหาค่ะ แต่ต้องเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสาเหตุของปัญหานั้น ๆ เช่น หากเป็นกระดูกปีกนก ควรรักษาด้วยการผ่าตัดเปิดโอเพ่น เพื่อคลายผังผืดและยืดกระดูกให้กลับมาตรง ซึ่งเทคนิคอื่น ๆ อาจไม่สามารถทำได้ ถ้าเป็นคีลอย จะมีการฉีดยาลดขนาดคีลอยให้หายไป ปัญหาทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ในการเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดค่ะ ส่วนผลลัพธ์การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา ผู้ดูแลขอย้ำว่า “ในการศัลยกรรมไม่มีวิธีใดที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ 100%” แต่ผลลัพธ์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเทคนิคและลักษณะของแต่ละปัญหาค่ะ

การตัดปีกจมูกแบบแผลนอก
แพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณด้านนอกของปีกจมูก จากนั้นจึงตัดแต่งปีกจมูกตามที่ต้องการ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกกว้างหรือหนา และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร
ข้อดี
- ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกกว้างหรือหนา
ข้อเสีย
- มีแผลเป็นที่มองเห็นได้บริเวณด้านนอกของปีกจมูก
- ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่าการตัดปีกจมูกแบบแผลใน

การตัดปีกจมูกแบบแผลใน
แพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณด้านในของโพรงจมูก จากนั้นจึงตัดแต่งปีกจมูกตามที่ต้องการ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกไม่กว้างหรือหนามาก และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีแผลเป็นน้อย
ข้อดี
- แผลเป็นน้อยกว่าการตัดปีกจมูกแบบแผลนอก
- ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่าการตัดปีกจมูกแบบแผลนอก
ข้อเสีย
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกกว้างหรือหนามาก
- ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการตัดปีกจมูกแบบแผลนอก

กรณีแบบไหนควรตัดปีกจมูก
- ปีกจมูกกว้าง : ผู้ที่มีปีกจมูกกว้างจนทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน
- ปีกจมูกบาน : ผู้ที่มีปัญหาปีกจมูกบาน ทำให้จมูกดูใหญ่และไม่สวยงาม
- จมูกสั้นและใหญ่ : การตัดปีกจมูกสามารถช่วยให้จมูกดูยาวและเล็กลงได้
- ใบหน้ากลมหรือเหลี่ยม : การตัดปีกจมูกสามารถช่วยปรับสมดุลใบหน้าให้ดูกลมกลืนมากขึ้น
- ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้ได้สัดส่วน : สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้ได้สัดส่วนและสวยงามยิ่งขึ้น
ข้อดีของการตัดปีกจมูก
- ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น : การตัดปีกจมูกจะช่วยลดความกว้างของจมูก ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กและสมส่วนมากขึ้น
- จมูกดูโด่งขึ้น : เมื่อปีกจมูกเล็กลง สันจมูกจะดูโดดเด่นขึ้น ทำให้จมูกดูยาวและโด่งขึ้น
- แก้ไขปัญหาปีกจมูกบาน : สำหรับผู้ที่มีปัญหาปีกจมูกบาน การตัดปีกจมูกจะช่วยให้ปีกจมูกเล็กลงและกระชับขึ้น
- ปรับสมดุลใบหน้า : การตัดปีกจมูกสามารถช่วยปรับสมดุลใบหน้าให้ดูกลมกลืนมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ากลมหรือเหลี่ยม
- เพิ่มความมั่นใจ : การมีจมูกที่ได้รูปทรงตามที่ต้องการสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจและความพึงพอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
การดูแลตัวเองก่อนและหลังทำการเสริมจมูก
การดูแลก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัว อาการเลือดออกง่าย หรืออาการแพ้ยาต่างๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนทุกชนิดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- งดยาและอาหารเสริม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ 1 เดือนก่อนและหลังการผ่าตัด เพราะการสูบบุหรี่ส่งผลให้หลอดเลือดหดตัว อาจทำให้แผลหายช้า
- ก่อนการผ่าตัด ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดแต่งหน้าและสวมเครื่องประดับในวันที่เข้ารับการผ่าตัด
- ควรใส่เสื้อผ้าหลวมที่มีกระดุมหรือซิปด้านหน้าในวันที่เข้ารับการผ่าตัด
- ควรพยายามผ่อนคลายและไม่เครียดก่อนการผ่าตัด
การดูแลหลังทำ
- ไม่สัมผัสจมูกบ่อย ไม่สัมผัสด้วยความรุนแรง โดยเฉพาะการแคะ แกะ เกา เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จมูกจะเสีย รูปทรงและติดเชื้อได้
- หลีกเลื่องไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำเด็ดขาด (เพราะน้ำจะส่งผลให้แผลติดเชื้อ และอาจทำให้เกิดอาการอักเสบ ไปจนถึงอาการแผลเน่าเปื่อยได้
- กรณีที่ต้องการทำความสะอาดใบหน้า ควรใช้วิธีการเช็ดทำความสะอาดแทน โดยใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาด หรือแผ่นสำลีชุบน้ำเกลือ ไม่ควรใช้น้ำเปล่าในการทำความความสะอาด
- นอนหมอนสูง โดยให้ศรีษะสูงกว่าลำตัว และห้ามนอนตะแคงเพื่อป้องกันอาการเลือดคั่งในจมูกและจมูกเสียทรง
- หลีกเลื่องการออกกำลังกายที่ต้องก้มหรือยกของหนัก เพราะอาจทำให้กระทบกระเทือนแผลผ่าตัดได้ แต่สามามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้
- ในระยะเวลา3เดือนนี้ต้องงดการทำเลเซอร์ นวดหน้า ทรีตเมนต์ต่างๆ
การดูแลหลังทำ 14 วัน
-
เมื่อตัดไหมออกแล้วควรทำความสะอาดแผลด้วยสำลีก้านชุบน้ำเกลือเช็ดบริเวณแผลอย่างเบามือ
-
ควรดูแลตัวเองไม่ให้เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล เพราะอาจส่งผลต่อแผลผ่าตัดเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
-
สามารถออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานได้แบบปกติ และหลังทำได้1เดือนเดือนสามารถก้มมากๆ ยกของหนักและว่ายน้ำได้
การดูแลหลังทำ 1 เดือน
-
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนรุนแรงต่อจมูก
-
หมั่นทายา หรือขี้ผึ้งทาแผลที่แพทย์เตรียมไว้
-
เข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย เมื่อความต่อเนื่องของการรักษา
คำถามยอดฮิตเสริมจมูก
ทำจมูกต้องลางานกี่วัน?
คนไข้ : คุณหมอคะ ทำจมูก บวมมากไหม ต้องลางานกี่วันคะ
คุณหมอ : การเสริมจมูกจะบวมที่สุดวันที่ 3 หลังจากนั้นจะค่อยค่อยยุบบวมลงไปเรื่อยๆ ค่ะ
คนไข้ : ถ้าหนูลางาน 3-4 ได้ไหมคะ
คุณหมอ : ได้ค่ะวันที่ 4 และวันถัดไปจมูกก็จะยุบบวมลงเรื่อยๆ นะคะ
คนไข้ : ขอบคุณค่ะ
คุณหมอ : ยินดีมากค่ะ
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูกต้องงดทานวิตามินอาหารเสริมไหม
คนไข้ : คุณหมอคะก่อนเสริมจมูกหนูต้องงดทานวิตามินไหมคะ
คุณหมอ : ก่อนเสริมจมูกควรงดทานวิตามิน และอาหารเสริมก่อนเข้ารับการผ่าตัดนะคะ เนื่องจากในอาหารเสริมบางชนิดอาจจะมีฤทธิ์ทำให้เลือดไหลออกเยอะ ก็จะทำให้จมูกบวมเยอะนะคะ
คนไข้ : อ๋อเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ
คุณหมอ : ยินดีให้บริการค่ะ
ทำจมูกไปแล้วต้องนอนหมอนสูงกี่วัน?
คนไข้ : คุณหมอคะหลังจากเสริมจมูกต้องนอนหมอนสูงกี่วันคะ
คุณหมอ : หลังจากเสริมจมูกไปแล้วควรนอนหมอนสูง 45 องศา ประมาณ 7 วันนะคะ คนไข้จะฟื้นตัวได้ไวความบวมจะลดน้อยลงไวนะคะ
คนไข้ : อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ คุณหมอขอบคุณมากค่ะ
คุณหมอ : ยินดีมากๆ เลยค่ะ
ตัดไหมจมูกกี่วันหลังผ่าตัด?
คนไข้ : คุณหมอคะถ้าหนูทำจมูกกี่วันตัดไหมคะ
คุณหมอ : หลังเสริมจมูกตัดใหม่จมูก 14 วันนะคะ
คนไข้ : แล้วถ้าตัดปีกจมูกต้องตัดไหมกี่วันคะ
คุณหมอ : ตัดปีกจมูกตัดไหม 7 วันหลังผ่าตัดนะคะ
คนไข้ : ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
คุณหมอ : ยินดีมากๆเลยค่ะ
@chitaclinic เราสามารถกินอาหารเสริมได้เมื่อไหร่??#chitaclinic #ความรู้ #อาหารเสริม #ศัลยกรรมความงาม #ความรู้หลังศัลยกรรม #ฟีด ♬ เสียงต้นฉบับ - ChitaClinic
@chitaclinic หลังทำจมูกสามารถทานกาแฟได้มั้ยมาฟังกันค่ะ 🥰#chitaclinic #ฟีดดดシ #tiktokความรู้ #สาระ #ศัลยกรรม ♬ เสียงต้นฉบับ - ChitaClinic
@chitaclinic ⭐ทำจมูกมา กินส้มตำได้ตอนไหน🍽️ 🤩หมอมุมีคำตอบมาบอกทุกคนค่ะ สนใจสอบถามประเมินใบหน้า จองคิว หรือสอบถามคิวผ่าตัด ☎️ Hotline : 097-319-4859, 096-194-9741 #ศัลยกรรม #รีวิวศัลยกรรม #เสริมจมูก #แก้จมูก #รีวิวจมูก #chitaclinic
♬ เสียงต้นฉบับ - ChitaClinic